ทำไมต้องฝึกทำโจทย์เพื่อเตรียมสอบ

ทำไมต้องฝึกทำโจทย์เพื่อเตรียมสอบ เคยได้ยินไหมว่า ‘การฝึกทำโจทย์ด้วยตัวเองจะช่วยให้เก่งขึ้นได้’ พี่เชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนที่อ่านเนื้อหามาระดับนึงแล้วอาจเคยลองทำโจทย์ แต่กลับทำได้บ้าง ทำไม่ได้บ้าง จนกลัวการทำโจทย์ไปเลย แต่ความจริงแล้วการฝึกทำโจทย์นี่แหละคือเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้น้อง ๆ ได้ทบทวนเนื้อหาทั้งหมดที่ได้อ่านมาไปในตัวและยังได้เช็คความพร้อมก่อนสอบอีกด้วยว่าเราพร้อมสอบจริง ๆ หรือยัง    เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น การอ่านเนื้อหาในหนังสืออย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ เพราะการจำลองสถานการณ์ได้ดีที่สุดก็คือ ‘การลองทำโจทย์’ ซึ่งสามารถทดสอบได้ว่าเราแม่นยำในเนื้อหาที่เราอ่านจริงๆ ไหม เพราะข้อสอบบางอย่างก็มีการพลิกแพลงจากเนื้อหาในหนังสือ ดังนั้นการทำโจทย์บ่อยๆ จะทำให้เราได้เช็คว่าเรามีความแม่นยำในเนื้อหานั้นจริงๆ ใช่หรือไม่   รู้จุดอ่อนของตัวเอง ระหว่างฝึกทำโจทย์เราจะเห็นจุดอ่อนหรือจุดพลาดของตัวเอง ทำให้ประเมินตัวเองได้ว่า ข้อสอบส่วนไหน บทไหนที่เรายังไม่แม่น หรือถ้าทำผิดก็ก็สามารถดูเฉลยได้ว่าทำไมถึงผิด เพราะเราไม่เข้าใจ หรือไม่รอบคอบ นอกจากจะกลับไปแก้ไขได้ตรงจุด ยังทำให้จำความผิดพลาดของตัวเองได้ดี และไม่ทำผิดซ้ำตอนสอบจริงอีกด้วย    คุ้นชินกับโจทย์ ทำโจทย์ได้เร็วขึ้น เมื่อเราฝึกทำโจทย์บ่อยๆ นั่นหมายความว่าเราจะเจอโจทย์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น เมื่อทำโจทย์ที่หลากหลาย หมั่นทบทวนซ้ำๆ ก็จะมีประโยชน์ในการลงสนามจริง ทำให้เวลาสอบจริงจะมองเห็นแนวคิดการหาคำตอบและหาโซลูชั่นมาแก้ได้ไว ทำให้มีโอกาสทำคะแนนได้สูงขึ้นมากทีเดียว   จับแนวข้อสอบและเทคนิคทำข้อสอบได้ การฝึกทำโจทย์บ่อยๆ โดยเฉพาะข้อสอบเก่าจะทำให้เราจับแนวข้อสอบได้ว่า ข้อสอบแต่ละประเภท แต่ละวิชา เน้นเรื่องอะไร ออกเนื้อหาประมาณ…

8 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ

8 เทคนิคเรียนภาษาอังกฤษ การพูด ฟัง อ่าน เขียนภาษาอังกฤษถือเป็นทักษะสำคัญในปัจจุบันที่การสื่อสารและการเชื่อมต่อนั้นกระจายทั่วถึง แน่นอนว่าภาษากลางที่ใช้ในการสื่อสารนั้นก็คือ ภาษาอังกฤษ แต่สำหรับคนไทยที่ไม่ได้พูดภาษานี้เป็นภาษาแรก อาจจะมองว่าการเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะทั้งคำศัพท์และไวยากรณ์ต่างกันค่อนข้างมาก    การเรียนภาษาอังกฤษให้คล่องแคล่วและใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติอาจใช้เวลา แต่ถ้ามีเทคนิคที่ใช่ ก็รับรองว่าจะช่วยให้การเรียนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ดังนั้น มาดูกันว่าจะมีเทคนิคเรียนภาษาอังกฤษอะไรบ้างที่น่าสนใจเหมาะสมกับตัวเองแล้วการเรียนภาษาอังกฤษจะกลายเป็นเรื่องที่สนุก   1.อ่านและจดโน๊ต ไม่ว่าจะอ่านอะไรก็ตาม นิยาย บทความวิชาการ หนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ โพสต์ในโซเชียลมีเดีย จะช่วยให้สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาและบริบทได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ในการอ่าน เราไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายของทุกคำ จะอ่านในใจหรืออ่านออกเสียงเพื่อฝึกสำเนียงไปด้วยก็ได้ทั้งสองแบบ แต่ที่สำคัญคือ ให้อ่านเพื่อจับใจความสำคัญของเนื้อหา เพียงพอที่จะช่วยพัฒนาทักษะการอ่านได้แล้ว นอกจากนี้ หากมีคำศัพท์ วลี หรือสำนวนใดๆ ที่สงสัย ก็ให้จดโน๊ตเอาไว้ พร้อมกับคำอธิบายบริบทนั้นๆ เอาไว้เพื่อศึกษาต่อ ซึ่งเป็นเรื่องง่ายมากๆ เมื่อเรามีสมาร์ตโฟนอยู่กับตัว และต้องไม่ลืมโหลดแอปฯ Dictionary เอาไว้ด้วยนะ   2.ฟังเพลง ฟังพอดแคสต์ ดูหนัง ภาษาอังกฤษ การฟังก็เป็นหนึ่งทักษะที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้เข้าใจทุกคำภาษาอังกฤษที่คนอื่นพูด แต่การฟังจับใจความนั้นสามารถช่วยยกระดับทักษะภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว หนึ่งในเทคนิคเรียนภาษาอังกฤษที่ได้ผลและเป็นที่นิยม โดยเฉพาะการฟัง…

บทบาทของ Learner Autonomy กับ IELTS

CR . พงศกร เอี่ยมองค์ CEO New Cambridge Institute บทบาทของ Learner Autonomy กับ IELTS ปลดล็อกความสามารถที่ซ่อนอยู่ มาพิชิต IELTS ด้วย Learner Autonomy คงไม่มีใครเถียงว่า ภาษาอังกฤษคือประตูสู่โอกาสในชีวิต ทั้งการเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำ การทำงานในองค์กรระดับโลก หรือแม้แต่การเปิดโลกให้กว้างขึ้น การพัฒนาภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพ อย่างถาวร และมีโครงสร้างชัดเจน จำเป็นต้องมีตัวชี้วัดตามมาตรฐานระดับนานาชาติ เช่น IELTS การทำคะแนน IELTS ให้ได้ band สูงนั้น ไม่ได้จบแค่การท่องศัพท์หรือจำหลักแกรมม่า ไวยากรณ์เท่านั้น แต่รวมถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์อย่างมีหลักการ จะเตรียมตัวสอบยังไง จะฝึกยังไง ให้ได้ผลดีและเร็วที่สุด? มารู้จักกับ Learner Autonomy หรือ การเรียนรู้ที่มีผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยน Mindset และติดเทอร์โบให้กับการเตรียมตัวสอบ IELTS อย่างยั่งยืนถาวร Learner Autonomy ไม่ใช่การเรียนด้วยตัวเอง…

IELTS VS TOEFL สอบอะไรดีกว่า?

CR . พงศกร เอี่ยมองค์ CEO New Cambridge Institute IELTS VS TOEFL สอบอะไรดีกว่า? หลายๆ คนอาจยังไม่แน่ใจว่าควรจะสอบ IELTS หรือ TOEFL ดี ที่เหมาะกับตัวเอง และจะช่วยทำให้ชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายอยู่แล้วง่ายขึ้น เรื่องการทดสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ ที่ใช้ในการเรียนต่อเป็นภาษาอังกฤษนั้น (เชิงวิชาการ) ในระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีข้อสอบที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล คือ IELTS กับ TOEFL IELTS นั้นมีต้นกำเนิดมาจากสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ) เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในอังกฤษ และเครือจักรภพ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศแถบยุโรป และในอเมริกาบางส่วน ส่วนมหาวิทยาลัยในอเมริกา, แคนาดาส่วนมากมักใช้ TOEFL แต่ข้อมูลปัจจุบันในปี 2568 นี้ มหาวิทยาลัยเกือบทั่วโลก ต่างยอมรับในแบบทดสอบทั้ง 2 ชนิด นี้ ว่าดีพอๆ กัน รุ่นพี่บางคนอาจแนะนำว่าให้สอบ IELTS ดีกว่า…

HOW TO? สอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยยังไง ให้ติดชัวร์

HOW TO? สอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยยังไง ให้ติดชัวร์ 1. การเตรียมความพร้อมด้านข้อมูล (The Research) ศึกษาข้อมูลคณะ/สาขา/มหาวิทยาลัยเชิงลึก: ไม่ใช่แค่รู้ชื่อ แต่ต้องรู้ ปรัชญา วิสัยทัศน์ และหลักสูตรเด่นๆ ของคณะ รวมถึง งานวิจัย โครงการ หรือ อาจารย์ที่ปรึกษา ที่คุณสนใจเป็นพิเศษ การพูดถึงรายละเอียดเหล่านี้แสดงถึงความตั้งใจจริง ไม่ใช่แค่การ “ลองยื่น” เชื่อมโยงคณะกับเป้าหมายส่วนตัว (Why You & Why Us): หาเหตุผลที่ เจาะจง ว่าทำไมต้องเป็น “คณะนี้” และ “มหาวิทยาลัยนี้” เท่านั้น ไม่ใช่แค่ “เพราะชอบ” แต่ต้องบอกว่า “เพราะหลักสูตร X ของที่นี่จะช่วยให้ฉันบรรลุเป้าหมาย Y ได้อย่างไร” 2. การฝึกซ้อมและพัฒนาทักษะการสื่อสาร (The Practice) ฝึกพูดอย่างเป็นธรรมชาติและมีโครงสร้าง: ฝึกพูดหน้ากระจกหรือบันทึกวิดีโอตัวเอง ไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่ให้ฝึก ลำดับความคิด (มีจุดเริ่มต้น/เนื้อหา/สรุป)…

Ielts Speaking Tips

IELTS Speaking Tips “ตอบได้” กับ “ตอบให้ได้ สูง” มันไม่เหมือนกันนะ ถ้าอยากขยับจาก ➝ .+ ใน ลองใช้เทคนิคนี้เลย 1. ขยายรายละเอียด ( ) – อย่าหยุดแค่ตอบคำถาม ให้เล่า “ทำไม” “อะไรที่พิเศษ” หรือ “ประสบการณ์ส่วนตัว” เข้าไปด้วย 2. เปรียบเทียบ ( ) – แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถเชื่อมโยงและเปรียบเทียบสิ่งต่าง ๆ ได้ เช่น สถานที่ที่ชอบกับที่อื่น ตัวอย่าง ❌ “I love Pattaya because I like the beach.” (Band ~5) ✅ “I love Pattaya because it’s not far…