ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ IELTS ที่ทำให้นักเรียนไทยไม่ก้าวหน้า

การเตรียมสอบ IELTS อาจทำให้หลายคนรู้สึกหนักใจ โดยเฉพาะเมื่อได้รับคำแนะนำจากหลายแหล่ง ทั้งจากครู เพื่อน ฟอรั่มออนไลน์ หรือแม้แต่โซเชียลมีเดีย แต่ไม่ใช่ทุกคำแนะนำที่จะถูกต้องเสมอไป ความจริงแล้ว นักเรียนไทยจำนวนไม่น้อยยังคงยึดติดกับ “ความเชื่อผิด ๆ” เกี่ยวกับ IELTS ซึ่งอาจทำให้การพัฒนาช้าลง และไม่สามารถไปถึง Band ที่ตั้งเป้าไว้ได้

มาลองเคลียร์ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุด และแทนที่ด้วยกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงกันดีกว่า

Myth 1: “ท่องศัพท์เยอะ ๆ ก็พอแล้ว”

หลายคนเชื่อว่าการท่องจำคำศัพท์ยาว ๆ จะช่วยการันตีคะแนนสูง แต่ความจริง IELTS ไม่ใช่การทดสอบความจำ ผู้ตรวจต้องการเห็นว่าคุณสามารถใช้คำศัพท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบริบท

ความจริง: การเรียนรู้คำศัพท์จำนวนน้อยแต่ใช้ได้จริงในประโยค เรียงความ และการสนทนา จะมีประสิทธิภาพมากกว่า
Example: แทนที่จะท่องคำว่า “sustainable” อย่างเดียว ลองเขียนว่า:
“Sustainable energy sources such as solar and wind are becoming more popular.”

Myth 2: “แกรมม่าต้องเป๊ะเท่านั้นถึงจะได้ Band 7”

แน่นอนว่าไวยากรณ์สำคัญ แต่ผู้ตรวจ IELTS ไม่ได้คาดหวังความสมบูรณ์แบบ 100% สิ่งที่พวกเขามองหาคือความหลากหลายของโครงสร้างประโยคและความชัดเจนโดยรวม ความผิดพลาดเล็กน้อยไม่ทำให้คุณพลาด Band 7 หากความหมายยังคงชัดเจน

ความจริง: โฟกัสที่ความถูกต้องในเรื่องพื้นฐาน เช่น กาลของกริยา (verb tenses), การใช้ประธาน–กริยาให้สอดคล้องกัน (subject–verb agreement), และการใช้ articles ที่ถูกต้อง และควรฝึกเขียนและพูดโดยใช้ประโยคที่หลากหลาย ทั้ง simple, compound และ complex sentences

Myth 3: “สอบในไทยง่ายกว่า”

บางคนคิดว่าการสอบในประเทศตัวเองจะง่ายกว่า แต่ความจริง IELTS เป็นการสอบมาตรฐานสากล รูปแบบ เกณฑ์การให้คะแนน และระดับความยากเหมือนกันทั่วโลก

ความจริง: คะแนนของคุณขึ้นอยู่กับการเตรียมตัว ไม่ใช่สถานที่สอบ ดังนั้นแทนที่จะกังวลว่าจะสอบที่ไหน ควรใช้พลังงานไปกับการฝึกฝนและจำลองสถานการณ์สอบจริงจะดีกว่า

Myth 4: “ทำข้อสอบเก่าเยอะ ๆ จะเจอข้อสอบซ้ำ”

หลายคนหวังว่าถ้าทำข้อสอบเก่ามากพอ จะเจอคำถามเดิม ๆ ในห้องสอบ แต่ความจริง IELTS มีการอัปเดตคำถามตลอดเวลาเพื่อป้องกันการซ้ำ

ความจริง: คุณไม่สามารถเดาคำถามได้เป๊ะ ๆ แต่สามารถเตรียมตัวกับ “รูปแบบคำถาม” ที่พบบ่อยได้ เช่น Writing Task 2 อาจให้คุณเขียนข้อดี–ข้อเสีย แสดงความเห็น หรือวิเคราะห์ปัญหาและทางแก้ หากคุณฝึกตามรูปแบบเหล่านี้ คุณจะพร้อมสำหรับทุกหัวข้อ

Myth 5: “Speaking ขึ้นอยู่กับสำเนียง”

นักเรียนไทยจำนวนมากกังวลว่าสำเนียงของตัวเองจะทำให้คะแนน Speaking ลดลง แต่ผู้ตรวจ IELTS ได้รับการฝึกให้เข้าใจสำเนียงที่หลากหลาย สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือความชัดเจน ความคล่องแคล่ว และความสามารถในการสื่อสารความคิด

ความจริง: คุณไม่จำเป็นต้องมีสำเนียงอังกฤษหรืออเมริกันที่ “สมบูรณ์แบบ” สิ่งที่ควรโฟกัสคือการออกเสียง (pronunciation), น้ำเสียง (intonation), และการเน้นคำ (stress)
Example: ฝึกเน้นคำสำคัญในประโยค เช่น
“I completely agree with that idea.”

Myth 6: “เขียนเยอะ ๆ คะแนนจะสูงขึ้น”

บางคนคิดว่าการเขียนเรียงความยาว ๆ จะทำให้ผู้ตรวจประทับใจ แต่ความจริงแล้ว คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ การเขียนมากเกินไปมักทำให้เกิดการซ้ำซ้อน ขาดการจัดระเบียบ และมีโอกาสผิดแกรมม่ามากขึ้น

ความจริง: ตั้งเป้าเขียนให้ชัดเจนและมีโครงสร้างที่ดี โดยเขียนตามจำนวนคำที่กำหนด (อย่างน้อย 150 คำสำหรับ Task 1 และ 250 คำสำหรับ Task 2) การให้เหตุผลที่แข็งแรงและการจัดเรียงความคิดอย่างเป็นระบบจะช่วยให้ได้คะแนนสูงกว่าการเขียนยืดยาวโดยไม่จำเป็น

 

การเชื่อใน “ความเชื่อผิด ๆ” เกี่ยวกับ IELTS อาจทำให้คุณเสียเวลาและพลังงานโดยไม่จำเป็น ความสำเร็จในการสอบมาจากการเตรียมตัวอย่างชาญฉลาด: เข้าใจข้อสอบ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และโฟกัสที่ทักษะจริง ไม่ใช่ทางลัด

เมื่อคุณปล่อยวางความเข้าใจผิดเหล่านี้ได้ นักเรียนไทยก็จะสามารถเตรียมสอบ IELTS ได้อย่างมั่นใจ ชัดเจน และใช้กลยุทธ์ที่ได้ผลจริง